ผนังกันความร้อนคืออะไร? ทางเลือกเปลี่ยนบ้านให้เย็นสบาย ไม่กลัวร้อน

Social Links


ผนังกันความร้อนคืออะไร? ทางเลือกเปลี่ยนบ้านให้เย็นสบาย ไม่กลัวร้อน

Key Takeaway

  • ผนังกันความร้อนคือ วัสดุที่ใช้ติดตั้งบริเวณภายในหรือภายนอกผนังบ้าน โดยมีหน้าที่หลักในการป้องกันหรือชะลอการถ่ายเทความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน
  • ประเภทของผนังกันความร้อน มีดังนี้ ฉนวนไฟเบอร์กลาส ฉนวนพียูโฟม ฉนวนโพลีสไตรีน แผ่นฟอยล์สะท้อนความร้อน การก่ออิฐสองชั้น ผนังกันความร้อน แผ่นฉนวนกันความร้อน อิฐบล็อกเบา
  • ข้อดีของผนังกันความร้อนคือ ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้าน ประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้า ยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศและอุปกรณ์ไฟฟ้าช่วยป้องกันความเสียหายของวัสดุและโครงสร้างภายในบ้าน และเพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย
  • เคล็ดลับเลือกผนังกันความร้อนให้เหมาะกับบ้าน คือควรเลือกจากดูจากค่าต้านทานความร้อน (R-Value) ยิ่งค่าสูงจะสามารถกันความร้อนได้ดี และค่าการนำความร้อน (K-Value) ที่ต่ำ ป้องกันความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้านให้น้อยที่สุด และเลือกฉนวนที่มีความคงทน ไม่หดตัวหรือยุบตัว

 

อากาศร้อนเป็นปัญหาที่กระทบต่อการใช้ชีวิตภายในบ้าน จึงทำให้หลายคนเริ่มมองหาทางเลือกในการช่วยลดความร้อน โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา หนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมคือ ‘ผนังกันความร้อน’ ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้ความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับผนังกันความร้อนว่า คืออะไร มีกี่ประเภท รวมถึงข้อดีและข้อจำกัดที่ควรพิจารณา เพื่อให้คุณมีบ้านที่เย็นสบาย และประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น

ทำความรู้จักกับผนังกันความร้อนคืออะไร

ทำความรู้จักกับผนังกันความร้อนคืออะไร

“ผนังกันความร้อน” คือผนังที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อช่วยลดการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในบ้าน โดยมักใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติในการสะท้อนรังสีความร้อน หรือป้องกันความร้อน ไม่ให้ทะลุผ่านผนังเข้ามา เช่น ผนังสำเร็จรูปแบบมีฉนวนกันความร้อน แผ่นสะท้อนความร้อน หรือแม้แต่วัสดุก่อสร้างอย่างอิฐมวลเบา

จุดเด่นของผนังประเภทนี้คือ ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศมากนัก ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และเพิ่มความสบายในการอยู่อาศัย เหมาะกับสภาพอากาศร้อนแบบเมืองไทยเป็นอย่างมาก

ประเภทของผนังกันความร้อนมีกี่แบบ

ประเภทของผนังกันความร้อนมีกี่แบบ

มาดูกันว่าผนังกันความร้อนที่นิยมใช้กันในปัจจุบันมีแบบใดบ้างที่น่าสนใจ พร้อมคุณสมบัติพิเศษเฉพาะ และข้อดี-ข้อจำกัดก่อนตัดสินใจเลือกใช้ โดยมีดังนี้

ฉนวนไฟเบอร์กลาส

ฉนวนไฟเบอร์กลาส (Fiberglass) หรือฉนวนใยแก้ว เป็นวัสดุที่ผลิตจากเส้นใยแก้วขนาดเล็กละเอียด ถักทอเป็นชั้นๆ ทำให้เกิดช่องอากาศเล็กๆ ภายใน ช่วยชะลอการถ่ายเทความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และห่อหุ้มด้วยแผ่นฟอยล์ที่ช่วยสะท้อนความร้อนออกจากตัวบ้านได้ดี โดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นแผ่นหรือม้วน เป็นฉนวนกันความร้อนที่เหมาะสำหรับการติดตั้งในผนังและฝ้าเพดานของบ้านพักอาศัย

ข้อดี

  • ราคาย่อมเยาและหาซื้อง่าย
  • น้ำหนักเบา ติดตั้งสะดวก
  • เหมาะสำหรับบ้านทั่วไปที่ต้องการลดความร้อนอย่างประหยัด

ข้อจำกัด

  • อาจเกิดการระคายเคืองผิวหนังและดวงตา
  • หากสูดดมเข้าไปอาจระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ

ฉนวนพียูโฟม

ฉนวนพียูโฟม หรือโฟมโพลียูรีเทน (Polyurethane Foam) เป็นผนังกันความร้อนที่ได้รับความนิยม มักใช้ในรูปแบบการพ่นฉีดลงบนผนังหรือพื้นผิวโดยตรง เมื่อลงผิวแล้ว โฟมจะขยายตัวและแข็งตัวภายในไม่กี่นาที ช่วยอุดช่องว่างต่างๆ ได้อย่างแนบสนิท จึงสามารถกันความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการป้องกันเสียงและความชื้น ช่วยลดการสะสมของเชื้อราอีกด้วย

ข้อดี

  • ปิดช่องว่างได้แน่นหนา ลดการรั่วไหลของอากาศ
  • กันความร้อน เสียง และความชื้นได้ในตัวเดียว
  • ช่วยลดความเสี่ยงของเชื้อราและกลิ่นอับในบ้าน

ข้อจำกัด

  • ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับฉนวนประเภทอื่น
  • ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

ฉนวนโพลีสไตรีน

ฉนวนโพลีสไตรีน (Polystyrene) เป็นวัสดุสำหรับทำผนังกันความร้อนที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในงานก่อสร้างบ้านและอาคาร มักมาในรูปแบบแผ่นแข็งหรือโฟมที่มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการความรวดเร็วในการก่อสร้าง หรืองานรีโนเวทที่ต้องปรับปรุงผนังให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ได้แก่

  • EPS (Expanded Polystyrene) โฟมที่มีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่นดี และรับแรงกดได้พอสมควร เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการประหยัดพลังงานในราคาที่เข้าถึงได้
  • XPS (Extruded Polystyrene) มีความหนาแน่นสูงกว่า EPS จึงสามารถกันความร้อนได้ดีกว่า ทนแรงกดทับและไอน้ำได้ดี มักใช้ในพื้นที่ที่ต้องการการป้องกันความร้อนและความชื้นเป็นพิเศษ

ข้อดี

  • กันความชื้นได้ดี ป้องกันไม่ให้น้ำซึมเข้าสู่ภายในผนัง
  • เหมาะกับพื้นที่ชื้น เช่น ผนังภายนอก หรือห้องน้ำ
  • น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย สะดวกต่อการใช้งาน

ข้อจำกัด

  • ราคาสูงกว่าฉนวนบางประเภท
  • ไม่ย่อยสลายตามธรรมชาติ อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

แผ่นฟอยล์สะท้อนความร้อน

ฉนวนแผ่นฟอยล์สะท้อนความร้อน หรือ Radiant Barrier เป็นวัสดุกันความร้อนที่ทำงานโดยใช้หลักการสะท้อนรังสีความร้อนจากแสงแดด แผ่นฟอยล์ชนิดนี้มีพื้นผิวเงา ช่วยสะท้อนความร้อนกลับออกไปก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน มักนิยมนำไปติดตั้งบริเวณผนัง หลังคา หรือห้องใต้หลังคา เพื่อช่วยลดการถ่ายเทความร้อนโดยตรงจากภายนอก

ข้อดี

  • สะท้อนรังสีความร้อนได้มากถึง 90 – 95%
  • ติดตั้งง่าย โดยเฉพาะเมื่อติดกับโครงหลังคาหรือโครงผนัง
  • เมื่อนำไปใช้ร่วมกับฉนวนประเภทอื่น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกันความร้อนให้ดียิ่งขึ้น

ข้อจำกัด

  • ไม่สามารถป้องกันหรือดูดซับความร้อนโดยตรงได้ เพราะเน้นเฉพาะการสะท้อน
  • หากใช้เดี่ยวๆ การกันความร้อนอาจไม่เพียงพอเท่าฉนวนประเภทอื่น

ก่ออิฐสองชั้น

ก่ออิฐสองชั้น

ผนังก่ออิฐสองชั้น (Double Wall) คือการก่อผนังกันความร้อนโดยใช้อิฐสองแถวซ้อนกัน โดยเว้นช่องว่างระหว่างแถวผนังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกันความร้อนและกันเสียง ขนาดช่องว่างระหว่างผนังมักอยู่ที่ประมาณ 5 – 20 ซม. ขึ้นอยู่กับการออกแบบ ในบางกรณียังสามารถใส่ฉนวนกันความร้อนลงในช่องว่างนี้เพื่อเสริมคุณสมบัติป้องกันความร้อนให้ดียิ่งขึ้น

ข้อดี

  • ช่วยป้องกันความร้อนเข้าสู่ภายในบ้านได้ดีกว่าผนังชั้นเดียว
  • ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้
  • เพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคงของโครงสร้างบ้าน
  • ง่ายต่อการออกแบบ สวยงาม มีหน้าผนังเรียบเสมอ ไม่มีเหลี่ยมหรือแนวเสาโผล่
  • เพิ่มพื้นที่สำหรับซ่อนสายไฟหรือท่อเดินระบบต่างๆ ทำให้ภายในบ้านดูเรียบร้อยมากขึ้น

ข้อจำกัด

  • ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสูงกว่าผนังชั้นเดียว ทั้งค่าวัสดุและค่าแรง
  • ใช้เวลาก่อสร้างนาน
  • ผนังมีน้ำหนักมากขึ้น อาจต้องออกแบบคานหรือฐานรากให้รองรับน้ำหนักเพิ่มขึ้น
  • อาจเกิดปัญหาความชื้นสะสมในช่องว่างระหว่างผนังหากไม่มีการระบายอากาศที่ดี

อิฐมวลเบา

อิฐมวลเบา (Lightweight Concrete Brick หรือ Autoclaved Aerated Concrete) เป็นวัสดุก่อสร้างประเภทหนึ่งที่ผลิตจากส่วนผสมของปูนซีเมนต์ ปูนขาว ทรายบดละเอียด ยิปซัม ผงอะลูมิเนียม และน้ำ ผสมในรูปของเหลวและผ่านกระบวนการทางเคมีจนเกิดฟองอากาศจำนวนมาก ทำให้เนื้ออิฐมีช่องว่างเล็กๆ กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งก้อน ทำให้สามารถเป็นฉนวนกันความร้อนไม่ให้ความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวอาคาร ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้าน

ข้อดี

  • มีอายุการใช้งานยาวนาน ไม่ผุกร่อน
  • เป็นฉนวนกันความร้อน ช่วยประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟฟ้า โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ
  • ขนาดอิฐมาตรฐาน งานก่อสร้างเสร็จเร็ว ลดปริมาณรอยต่อระหว่างก้อนอิฐ
  • น้ำหนักเบา ขนย้ายและก่อสร้างง่าย ลดต้นทุนโครงสร้างอาคาร
  • มีคุณสมบัติกันเสียง เหมาะกับบ้านหรืออาคารที่อยู่ในแหล่งเสียงดัง

ข้อจำกัด

  • ต้องใช้ปูนก่อและปูนฉาบเฉพาะสำหรับอิฐมวลเบา ไม่สามารถใช้ปูนทั่วไปได้
  • ไม่ทนต่อความชื้นสูง หากสัมผัสน้ำบ่อยอาจลดความแข็งแรงผิวหน้าอิฐได้
  • ราคาสูงกว่าอิฐชนิดอื่น

ผนังกันความร้อนสำเร็จรูป

ผนังกันความร้อนสำเร็จรูป เป็นแผ่นผนังที่ผลิตสำเร็จจากโรงงาน โดยประกอบด้วยวัสดุชั้นนอก เช่น แผ่นเหล็กเคลือบหรือเมทัลชีท ประกบกับชั้นฉนวนกันความร้อนตรงกลาง เช่น โฟมโพลีสไตรีน (EPS) โพลียูรีเทน (PU) โพลีไอโซไซยานูเรต (PIR) หรือแผ่นใยหิน (Rockwool) ทำให้ได้ผนังที่มีคุณสมบัติกันความร้อนและติดตั้งรวดเร็ว ไม่ต้องฉาบปูนแบบผนังอิฐ

ข้อดี

  • ประหยัดพลังงาน ช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ 30 – 50%
  • ติดตั้งได้รวดเร็ว ประหยัดเวลาและค่าแรง
  • ลดขยะ วัสดุส่วนเกิน และฝุ่น
  • น้ำหนักเบา ลดภาระโครงสร้างอาคาร
  • ผิวผนังเรียบสวยงาม ไม่ต้องฉาบปูน
  • สะอาด ปลอดฝุ่นและเชื้อโรค เหมาะกับโรงงาน ออฟฟิศ ห้องเย็น

ข้อจำกัด

  • ราคาวัสดุสูงกว่าการก่ออิฐหรือผนังแบบเดิม โดยเฉพาะชนิดฉนวนคุณภาพสูง
  • ไม่เหมาะกับงานต่อเติมที่ต้องตัดหรือทุบเจาะ เพราะแผ่นสำเร็จรูปลดความยืดหยุ่นเมื่อต้องปรับเปลี่ยนผังห้อง
  • ประสิทธิภาพรับแรงกระแทกหรือรับน้ำหนักแขวนหนักๆ อาจน้อยกว่าผนังอิฐ
  • ถ้าติดตั้งไม่ดี อาจเกิดปัญหารอยต่อหรือการรั่วซึมได้
  • หากใช้ฉนวนบางชนิด เช่น EPS เมื่อเกิดอัคคีภัยอาจละลายเร็วกว่าผนังอิฐ และบางชนิดกันไฟไม่ได้

แผ่นฉนวนกันความร้อน

แผ่นฉนวนกันความร้อน (Thermal Insulation Panels) เป็นวัสดุประเภทแผ่นติดผนังที่มีลักษณะพิเศษในการสกัดกั้นหรือชะลอการถ่ายเทความร้อนระหว่างด้านนอกกับด้านในของอาคาร ประกอบด้วยวัสดุที่มีโครงสร้างฟองอากาศหรือวัสดุที่มีความหนาแน่นต่ำ เช่น โฟมโพลียูรีเทน (PU Foam) โฟมโพลีสไตรีน (EPS) เป็นต้น ทำให้แผ่นฉนวนนี้ช่วยรักษาอุณหภูมิภายในอาคารให้คงที่ ลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับการใช้งานในหลังคา ผนัง ฝ้าเพดาน หรือห้องเย็นในโรงงานอุตสาหกรรม

ข้อดี

  • ประสิทธิภาพในการกันความร้อนสูง ช่วยรักษาอุณหภูมิภายในอาคาร
  • น้ำหนักเบาและติดตั้งง่าย ประหยัดเวลาและแรงงาน
  • ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า
  • กันเสียงรบกวนได้ดี
  • ทนทานต่อไฟและความชื้น
  • เหมาะกับบ้านพักอาศัยและอุตสาหกรรม
  • ลดปริมาณฝุ่นในงานติดตั้ง

ข้อจำกัด

  • ราคาสูงกว่าผนังหรือวัสดุทั่วไป
  • ประสิทธิภาพกันไฟแตกต่างกันตามชนิดวัสดุ ฉนวนบางชนิดติดไฟง่ายหรือหลอมละลายได้เมื่อโดนความร้อนสูง
  • ต้องติดตั้งโดยช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันปัญหารอยต่อและการรั่วซึม
  • บางชนิดไม่สามารถรับน้ำหนักแขวนหรือรับแรงกระแทกได้ดี
  • หากติดตั้งไม่เหมาะสม อาจเกิดปัญหาความชื้นสะสมภายในได้

อิฐบล็อกเบา

อิฐบล็อกเบาผลิตจากวัสดุรีไซเคิล เถ้าแกลบจากโรงงานชีวมวล เป็นประเภทคอนกรีตบล็อกน้ำหนักเบาที่ใช้เถ้าแกลบ มีค่าการนำความร้อนต่ำเป็นส่วนผสมทดแทนมวลรวมละเอียดบางส่วนของปูนซีเมนต์ ในกระบวนการผลิตอิฐบล็อกเถ้าแกลบนี้ เถ้าแกลบมีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อนดี ทำให้อิฐบล็อกเบาที่ผลิตมีน้ำหนักเบากว่าอิฐบล็อกธรรมดา และยังมีความแข็งแรงเพียงพอตามมาตรฐานสำหรับงานก่อสร้างทั่วไป

ข้อดี

  • เป็นฉนวนกันความร้อน ลดการใช้พลังงานในการทำความเย็นภายในอาคาร
  • เป็นวัสดุรีไซเคิลที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  • มีความแข็งแรงตามมาตรฐานใช้งานก่อสร้างทั่วไปได้
  • มีความทนทานต่อน้ำและลดปัญหาความชื้น

ข้อจำกัด

  • อาจต้องควบคุมกระบวนการผลิตให้เหมาะสมเพื่อให้ได้คุณภาพคงที่
  • ยังเป็นวัสดุใหม่ในบางตลาด อาจมีความเข้าใจและการยอมรับน้อยกว่าวัสดุแบบดั้งเดิม
  • ต้องใช้เทคนิคและมาตรฐานการผลิตที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาด้านคุณภาพและความทนทาน

ข้อดีของการติดตั้งผนังกันความร้อน

ข้อดีของการติดตั้งผนังกันความร้อน

  • ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้าน โดยการสะท้อนหรือชะลอการถ่ายเทความร้อนจากภายนอก ทำให้บ้านเย็นขึ้น โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อนจัด
  • ประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้า ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศได้ โดยขึ้นอยู่กับวัสดุและการติดตั้ง
  • ยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศและอุปกรณ์ไฟฟ้า เพราะเครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง
  • ช่วยป้องกันความเสียหายของวัสดุและโครงสร้างภายในบ้าน เช่น ลดการบิดเบี้ยวของหลังคาและป้องกันเฟอร์นิเจอร์จากความร้อนสูง
  • เพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย ควบคุมอุณหภูมิในบ้านให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและคงที่

ข้อควรระวังเมื่อติดผนังกันความร้อน

ข้อควรระวังเมื่อติดผนังกันความร้อน

  • เลือกวัสดุที่เหมาะสมกับสภาพอากาศและประเภทของบ้าน ควรเลือกผนังหรือฉนวนที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ เช่น พื้นที่ร้อนจัดควรเลือกวัสดุที่มีค่ากันความร้อนสูง และเหมาะกับโครงสร้างบ้านเพื่อให้ติดตั้งได้ดี
  • ตรวจสอบโครงสร้างเดิมและความแข็งแรง โดยเฉพาะหากติดตั้งบนฝ้าเพดานหรือผนังเดิม ต้องเช็กว่าโครงคร่าวหรือโครงสร้างสามารถรับน้ำหนักผนังกันความร้อนได้อย่างปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดปัญหาเรื่องความเสียหาย
  • ระวังปัญหาความชื้นสะสม ช่องว่างระหว่างผนังหรือบริเวณที่ติดตั้งควรมีการระบายอากาศที่ดี 
  • เลือกใช้ผู้ติดตั้งหรือช่างผู้เชี่ยวชาญ การติดตั้งที่ถูกต้องตามมาตรฐานช่วยลดปัญหาการติดตั้งไม่ดี เช่น รอยต่อรั่วซึมหรือการติดตั้งไม่แน่นหนา ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการกันความร้อน
  • ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย ในกรณีติดตั้งฉนวนใยแก้วหรือวัสดุที่อาจระคายเคืองผิวหนัง ควรสวมถุงมือ เสื้อผ้ามิดชิด และอุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ
  • หลีกเลี่ยงการดัดแปลงหรือตัดแผ่นผนังสำเร็จรูปโดยไม่เหมาะสม เพราะอาจลดความแข็งแรงและประสิทธิภาพของผนัง

เลือกผนังกันความร้อนอย่างไรให้เหมาะสม

เลือกผนังกันความร้อนอย่างไรให้เหมาะสม

ในการเลือกผนังกันความร้อนมีปัจจัยที่ควรพิจารณาเพื่อให้ได้ตัวช่วยกันความร้อนเข้าอาคารอย่างเหมาะสม โดยดูจากค่าต้านทานความร้อน (R-Value) ยิ่งค่าสูงจะสามารถกันความร้อนได้ดี รวมถึงค่าการนำความร้อน (K-Value) ที่ต่ำ เพื่อป้องกันความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้านให้น้อยที่สุด และควรคำนึงอายุการใช้งาน เลือกฉนวนที่มีความคงทน ไม่หดตัวหรือยุบตัวเมื่อเวลาผ่านไป และต้องสามารถทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นได้ดี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนวัสดุใหม่บ่อยครั้ง

นอกจากนี้ควรคำนึงถึงคือการติดตั้งฉนวนบางประเภท ที่อาจต้องใช้ช่างผู้ชำนาญในการติดตั้ง และความเหมาะสมของพื้นที่ งบประมาณ และค่าแรงก่อนตัดสินใจเลือก หากต้องการความเงียบสงบภายในบ้าน ควรเลือกฉนวนที่มีคุณสมบัติดูดซับเสียงร่วมด้วย เช่น ฉนวนใยแก้วชนิดหนา หรือฉนวนโฟมโพลียูรีเทน ซึ่งนอกจากกันความร้อนได้ดีแล้ว ยังช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกอีกด้วย

สรุป

ผนังกันความร้อนคือวัสดุที่ใช้ติดตั้งบนผนังบ้านเพื่อชะลอการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้าน ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นและลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ผนังกันความร้อนมีหลายประเภท เช่น ฉนวนใยแก้ว พียูโฟม การก่ออิฐสองชั้น ผนังกันความร้อนสำเร็จรูป และแผ่นฉนวนกันความร้อน โดยการเลือกใช้วัสดุควรพิจารณาจากค่าต้านทานความร้อน (R-Value) ค่าการนำความร้อน (K-Value) อายุการใช้งาน งบประมาณ และความเหมาะสมกับสภาพบ้าน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและประหยัดพลังงานในระยะยาว

นอกจากนี้ หนึ่งในวัสดุที่เหมาะสำหรับใช้เป็นผนังกันความร้อน คือ “อิฐบล็อกเบา” โดยเฉพาะของแบรนด์ Ecomat ที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติน้ำหนักเบา ช่วยลดการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในบ้าน ส่งผลให้ประหยัดพลังงานและลดค่าไฟ อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนในการก่อสร้าง ติดตั้งได้รวดเร็ว และให้โครงสร้างที่แข็งแรงในราคาย่อมเยา

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

หลายคนอาจสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับผนังกันความร้อน ปัญหาบ้านร้อน โดยวันนี้ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยพร้อมคำตอบที่จะช่วยไขข้อข้องใจให้เข้าใจขึ้นมาฝากกัน!

ผนังบ้านร้อนแก้อย่างไร?

เทคนิคแก้ผนังบ้านร้อน สามารถแก้ด้วยการเลือกหลังคาบ้านสีอ่อน ติดตั้งฉนวนกันความร้อนที่ใต้หลังคา หรือผนังบ้าน การทาสีภายในบ้านด้วยสีโทนเย็น เลือกวัสดุปูพื้นบ้านที่ช่วยคลายร้อน และปลูกต้นไม้บริเวณรอบบ้าน

วอลล์เพเปอร์กันความร้อนได้จริงไหม?

วอลล์เพเปอร์ติดผนังช่วยลดการสะท้อนและการถ่ายเทความร้อนจากภายนอก ช่วยให้ผนังสามารถกันความร้อนได้ดีขึ้น และรักษาความเย็นภายในห้องจากการเปิดเครื่องปรับอากาศ อีกทั้งยังเป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการความสวยงามควบคู่กับประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน

ผนังบ้านแบบไหนที่ไม่ทำให้บ้านร้อน?

ผนังบ้านที่ช่วยกันความร้อนเข้าตัวบ้าน ทำให้บ้านเย็นขึ้น ได้แก่ ผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบปูน ผนังเบาหุ้มฉนวนกันความร้อน ผนังเมทัลชีทติดฉนวนพียูโฟม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *