Key Takeaway
- ฉนวนกันความร้อนคือวัสดุที่ช่วยป้องกันไม่ให้ความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในบ้านหรืออาคาร ทำให้ภายในมีอุณหภูมิเย็นสบายมากขึ้น เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการอยู่อาศัย ช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าไฟได้ในระยะยาว
- ข้อดีของฉนวนกันความร้อน เช่น ป้องกันการส่งผ่านความร้อนเข้ามาในพื้นที่ ลดอุณหภูมิภายในบ้าน ประหยัดพลังงาน ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ลดเสียงรบกวนจากภายนอก และเพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย
- ประเภทของฉนวนกันความร้อนมีฉนวนใยแก้ว ฉนวนใยหิน ฉนวนเซรามิก ฉนวนแคลเซียมซิลิเกต ฉนวนอะลูมิเนียมฟอยล์ ฉนวนโฟมโพลียูรีเทน ฉนวนโพลีสไตรีน ฉนวนใยเซลลูโลส เวอร์มิคูไลต์ เซรามิกโคตติ้ง
- การเลือกซื้อฉนวนกันความร้อน ควรพิจารณาจากตำแหน่งที่ต้องการติดตั้ง ค่าความต้านทานความร้อน (ค่า R) ค่าการนำความร้อน ความปลอดภัยต่อสุขภาพ ความทนทาน และความเสถียรของฉนวน
เคยไหมที่ต้องทนกับความร้อนอบอ้าวภายในบ้านในช่วงฤดูร้อน ไม่ว่าจะเปิดแอร์เท่าไรก็ยังรู้สึกไม่เย็นสักที อาจไม่ใช่เพราะเครื่องปรับอากาศทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่เป็นเพราะความร้อนจากภายนอกยังคงทะลุเข้ามาภายในตัวบ้านได้อย่างต่อเนื่อง การเลือกใช้ “ฉนวนกันความร้อน” จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นได้ บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับฉนวนกันความร้อนให้มากขึ้น เพื่อให้บ้านของคุณเย็นสบาย ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายมากขึ้นได้
ทำความรู้จัก ฉนวนกันความร้อนคืออะไร
ฉนวนกันความร้อนคือวัสดุที่ช่วยป้องกันไม่ให้ความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในบ้านหรืออาคาร ทำให้ภายในมีอุณหภูมิเย็นสบายมากขึ้น โดยมักติดตั้งในส่วนสำคัญอย่างหลังคา ฝ้าเพดาน และผนัง เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการอยู่อาศัย อีกทั้งยังช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ส่งผลให้ประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้าได้ในระยะยาว
ข้อดีของฉนวนกันความร้อนที่ควรรู้ก่อนติดตั้ง
- ช่วยสะท้อนรังสีความร้อนและป้องกันการส่งผ่านความร้อนเข้ามาในพื้นที่หรือในห้องมากเกินไป
- ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้าน ทำให้ภายในบ้านเย็นลง โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อนจัด
- ช่วยประหยัดพลังงาน ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ และลดค่าไฟฟ้าในระยะยาวได้ประมาณ 20 – 30%
- เพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยด้วยการควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
- ลดเสียงรบกวนจากภายนอก เช่น เสียงรถยนต์หรือเสียงฝนในบางประเภทของฉนวน
- ช่วยยืดอายุการใช้งานของบ้านโดยลดความเสียหายจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
ประเภทของฉนวนกันความร้อนมีอะไรบ้าง
ฉนวนใยแก้ว
ฉนวนใยแก้วมีลักษณะเป็นแผ่นหรือม้วน ทำจากเส้นใยแก้วละเอียดที่อัดแน่น น้ำหนักเบาและติดตั้งได้สะดวก จุดเด่นของฉนวนกันความร้อนชนิดนี้คือมีค่าการนำความร้อนต่ำ ช่วยป้องกันความร้อนเข้าสู่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยดูดซับเสียง ลดเสียงรบกวนจากภายนอก และมีคุณสมบัติไม่ลุกติดไฟ ทำให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย เหมาะสำหรับติดตั้งในหลังคา ฝ้าเพดาน และผนังของบ้าน อาคารพาณิชย์ ไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการควบคุมทั้งอุณหภูมิและเสียงภายในอาคาร
ฉนวนใยหิน
ฉนวนใยหิน เป็นฉนวนกันความร้อนที่ผลิตจากหินบะซอลต์ธรรมชาติ ผ่านกระบวนการหลอมเหลวและปั่นให้เป็นเส้นใย มีคุณสมบัติป้องกันความร้อนและดูดซับเสียงได้ดีเยี่ยม ทนไฟได้สูงถึง 650 – 820 องศาเซลเซียส ทำให้ไม่ลามไฟและไม่ก่อให้เกิดควันพิษเมื่อเกิดเพลิงไหม้ อีกทั้งยังมีความแข็งแรง ยุบน้อย น้ำหนักเบา ไม่ดูดซับความชื้น จึงไม่เกิดเชื้อรา เหมาะสำหรับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม
ฉนวนเซรามิก
ฉนวนเซรามิกมีลักษณะเป็นเส้นใยที่ผลิตจากวัสดุเซรามิก เช่น อลูมินา ซิลิกา และคาร์บอน ผ่านกระบวนการหลอมที่อุณหภูมิสูงมาก ทนทานต่อความร้อนสูงถึง 1,200 – 1,600 องศาเซลเซียส มีค่าการนำความร้อนต่ำ น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย และมีความปลอดภัยสูงเพราะไม่ก่อให้เกิดสารพิษหรือสารก่อมะเร็ง เหมาะสำหรับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีอุณหภูมิสูง เช่น เตาเผา เตาอบ และเครื่องจักรที่ต้องการฉนวนกันความร้อนทนไฟที่มีประสิทธิภาพสูง
ฉนวนแคลเซียมซิลิเกต
ฉนวนแคลเซียมซิลิเกตเป็นวัสดุกันความร้อนที่มีความพรุน ผลิตจากทรายซิลิเซียส น้ำปูนขาว และเส้นใยเสริมความแข็งแรง ผ่านการอบด้วยความร้อนสูงจนได้คุณสมบัติที่ไม่ลามไฟ ไม่เผาไหม้ และไม่ปล่อยสารพิษ เหมาะสำหรับงานที่ต้องรองรับอุณหภูมิสูงประมาณ 650 – 1100 องศาเซลเซียส เช่น ฝ้า ผนังด้านในของเตาเผา ประตูห้องกันไฟ หรือผนังโครงสร้างกันไฟ กันความร้อน นอกจากนี้ยังมีความทนทานต่อความชื้น แรงกด และการใช้งานระยะยาว จึงเหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารสูงที่ต้องการมาตรการด้านความปลอดภัยขั้นสูง
ฉนวนอะลูมิเนียมฟอยล์
ฉนวนอะลูมิเนียมฟอยล์เป็นแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์บางๆ ที่มีความเหนียวและทนทานสูง สามารถสะท้อนรังสีความร้อนได้สูงถึง 95 – 97% มีค่าการแผ่รังสีความร้อนต่ำ ทำให้ลดความร้อนได้ดี แต่ฉนวนกันความร้อนชนิดนี้ไม่สามารถป้องกันความร้อนที่เข้าสู่ภายในบ้าน จึงมักใช้ร่วมกับฉนวนชนิดอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ มีข้อดีคือราคาประหยัด หาซื้อได้ง่าย ไม่เป็นวัสดุติดไฟ และทนความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับติดตั้งบริเวณโครงหลังคาหรือส่วนที่ต้องการสะท้อนความร้อน เช่น หลังคา โรงงาน หรือฝ้าบ้านเรือนทั่วไป เพื่อกันความร้อน
ฉนวนโฟมโพลียูรีเทน
ฉนวนกันความร้อนชนิดโฟมโพลียูรีเทน (PU Foam) คือโฟมแข็งชนิดเซลล์ปิดที่สามารถกันความร้อนและความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยค่าการนำความร้อนต่ำ จึงช่วยลดการแผ่รังสีและการถ่ายเทความร้อนได้มากกว่า 95% อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา แข็งแรง ยืดหยุ่น ทนทาน และช่วยลดเสียงรบกวน
เหมาะสำหรับติดตั้งเป็นฉนวนในหลังคา ผนัง อาคาร หรือห้องเย็น เพื่อเพิ่มความเย็นสบายและประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ ฉนวนโฟมโพลียูรีเทนยังทนต่อกรด ด่าง ไม่ลามไฟ และมีอายุการใช้งานยาวนาน จึงตอบโจทย์ทั้งงานภายในบ้านและงานอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี
ฉนวนโพลีสไตรีน
ฉนวนโพลีสไตรีน (Polystyrene Foam) เป็นวัสดุโฟมที่ทำจากพอลิสไตรีนซึ่งเป็นโพลิเมอร์ชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นแผ่นโฟมน้ำหนักเบาและมีโครงสร้างเซลล์ปิด ทำให้เป็นฉนวนกันความร้อนที่มีคุณสมบัติป้องกันความร้อนและเสียงได้ดี ทนความชื้น ไม่ดูดซึมน้ำ เหมาะสำหรับใช้ในงานก่อสร้างห้องเย็น ห้องคลีนรูม ฉนวนกันเสียง และงานก่อสร้างที่ต้องการวัสดุน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง สามารถรองรับแรงกดทับได้ดีและมีอายุการใช้งานยาวนาน นอกจากนี้ยังทำความสะอาดง่ายและเหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง
ฉนวนใยเซลลูโลส
ฉนวนกันความร้อนจากใยเซลลูโลส (Cellulose Insulation) คือฉนวนที่ผลิตจากการรีไซเคิลเยื่อไม้หรือกระดาษ นำมาบดละเอียดและผสมสารบอแร็กซ์เพื่อเสริมคุณสมบัติป้องกันไฟและเชื้อรา มีลักษณะเป็นเส้นใยที่สามารถติดตั้งได้หลายรูปแบบ ทั้งแบบแผ่น แบบคลุม หรือฉีดพ่นลงในโพรงผนังและใต้หลังคา จุดเด่นคือช่วยกันความร้อนได้สูงถึง 80 – 90% ลดการสะท้อนเสียง และช่วยประหยัดพลังงานได้ประมาณ 40% เหมาะสำหรับบ้านพักอาศัยและอาคารสำนักงาน โดยเฉพาะผู้ที่มองหาวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อสุขภาพ และไม่ก่อให้เกิดสารพิษ
เวอร์มิคูไลต์
เวอร์มิคูไลท์ (Vermiculite) ทำจากแร่ไมก้าซึ่งมีลักษณะเป็นเกล็ดๆ คล้ายแก้ว โดยแร่จะถูกนำไปเผาด้วยความร้อนสูงอย่างรวดเร็วเพื่อให้พองตัวและกลายเป็นเกล็ดที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนที่ดี ส่วนการใช้งานโดยทั่วไปคือการเทบรรจุเข้าไปในช่องว่างของผนังหรือโครงสร้างเพื่อเป็นฉนวนกันความร้อน
นอกจากนี้ยังสามารถนำไปผสมกับปูนซีเมนต์เพื่อทำคอนกรีตที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนที่ดียิ่งขึ้นได้ หรือนำไปปรับใช้เป็นฉนวนกันความร้อนในงานเกษตรกรรมก็ได้ เช่น การปลูกพืชไร้ดินหรือวัสดุคลุมดิน เพื่อช่วยคงความชื้นและควบคุมอุณหภูมิ
เซรามิกโคตติ้ง
ฉนวนกันความร้อนแบบเซรามิกโคตติ้ง (Ceramic Coating) คือเทคโนโลยีการเคลือบผิวที่ผสมอนุภาคเซรามิกซึ่งมีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนได้ดี ยืดหยุ่น และยึดเกาะพื้นผิวได้อย่างทนทาน มักใช้เคลือบหลังคา ดาดฟ้า หรือผนังภายนอกอาคาร เพื่อป้องกันความร้อนจากแสงแดด ลดการสะสมความร้อนบนพื้นผิว และช่วยยืดอายุการใช้งานของวัสดุ อีกทั้งยังป้องกันความชื้น ฝุ่นเกาะ และลดเสียงรบกวนจากเม็ดฝน เหมาะสำหรับบ้านเรือนหรืออาคารที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิภายในและดูแลพื้นผิว
เคล็ดลับเลือกซื้อฉนวนกันความร้อนต้องดูที่อะไรบ้าง
- ประเภทฉนวนและตำแหน่งติดตั้ง เพราะฉนวนแต่ละชนิดเหมาะกับพื้นที่ต่างกัน เช่น ใยแก้วเหมาะกับหลังคาที่สะสมความร้อน ส่วนอะลูมิเนียมฟอยล์เหมาะกับพื้นที่ที่ไม่ต้องการความหนามาก
- ค่า R (ความต้านทานความร้อน) จะบอกว่าฉนวนกันความร้อนนั้นป้องกันความร้อนได้ดีแค่ไหน โดยค่าที่สูงหมายถึงฉนวนที่กันความร้อนได้ดีกว่า
- ค่า K (ค่าการนำความร้อน) ควรต่ำ เพราะหมายถึงวัสดุยิ่งป้องกันความร้อนได้มาก
- ความปลอดภัยด้านสุขภาพ เช่น เลือกฉนวนที่ไม่ปล่อยฝุ่นหรือสารพิษ เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองหรืออันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ
- ความทนทาน และความเสถียรของฉนวน เช่น ไม่แตกหักง่าย ไม่ยุบตัว เพื่อลดการสูญเสียประสิทธิภาพในการกันความร้อน
สรุป
ฉนวนกันความร้อนคือ วัสดุที่ช่วยป้องกันไม่ให้ความร้อนจากภายนอกเข้าสู่บ้านหรืออาคาร ทำให้ภายในมีอุณหภูมิเย็นสบายมากขึ้น ช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ทำให้ประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้าได้ในระยะยาว เพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย และยืดอายุการใช้งานของบ้าน โดยฉนวนแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ในการเลือกซื้อฉนวนจึงควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ตำแหน่งที่ต้องการติดตั้ง ค่าความต้านทานความร้อน (ค่า R) และความปลอดภัยต่อสุขภาพ
นอกจากฉนวนกันความร้อนที่มีคุณสมบัติโดยตรงในด้านการกันความร้อนแล้ว การเลือกใช้วัสดุอย่างอิฐกันความร้อน ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ อย่าง Ecomat ที่มีคุณสมบัติเฉพาะนอกเหนือจากกันความร้อนได้ดีแล้ว ยังไม่ดูดซึมน้ำทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการรั่วซึม และน้ำหนักเบา แข็งแรง ทนทาน ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและแรงงาน ลดภาระทางโครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
หลายคนอาจสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับฉนวนกันความร้อน นอกจากมีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ตามการใช้งานแล้ว ยังมีปัจจัยต่างๆ ที่ควรพิจารณา วันนี้จึงได้รวบรวมคำถามที่น่าสนใจมาฝาก
ถ้าอยู่ห้องแอร์ จำเป็นต้องติดฉนวนความร้อนหรือไม่
การติดตั้งฉนวนกันความร้อนยังเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากฉนวนจะช่วยป้องกันความร้อนจากภายนอกไม่ให้เข้าสู่ห้องได้มาก ทำให้ห้องเย็นเร็วขึ้นและเครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง จึงช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าและลดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว
ฝ้ากันความร้อนแบบไหนดี
ฝ้ากันความร้อนที่ดีควรเป็นแผ่นยิปซัมกันความร้อนที่มีแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์บุอยู่ด้านหลัง เพื่อช่วยสะท้อนรังสีความร้อนได้สูงถึง 93 – 95% และมีคุณสมบัติแข็งแรง น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย
อะลูมิเนียมสามารถกันความร้อนได้ไหม
อะลูมิเนียมฟอยล์มีประสิทธิภาพในการสะท้อนความร้อนได้สูงถึง 95 – 97% แต่เนื่องจากมีความบางและไม่มีความหนามากพอ จึงทำหน้าที่เป็นฉนวนสะท้อนความร้อนได้ดีแต่ไม่สามารถป้องกันการส่งผ่านความร้อนได้เต็มที่ จึงมักใช้ร่วมกับฉนวนชนิดอื่นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด